นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ จีไอที เปิดเผยว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ ไม่รวมทองคำ 6 เดือนแรกของปี 66 (ม.ค.-มิ.ย.) การส่งออก ไม่รวมทองคำ มีมูลค่า 4,198.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 9.01% และรวมทองคำ มูลค่า 7,361.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 15.52% ขณะที่เดือนมิ.ย.66 มีมูลค่า 737.41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 31.19% กลับมาฟื้นตัวดีขึ้น เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน แต่หากรวมทองคำ มีมูลค่า 929.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 17.34%คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญมีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง โดยเครื่องประดับทอง เพิ่ม 32.98% เครื่องประดับแพลทินัม เพิ่ม 28.01% พลอยก้อน เพิ่ม 24.57% พลอยเนื้อแข็งเจียระไน เพิ่ม 102.66% พลอยเนื้ออ่อนเจียระไน เพิ่ม 148.93% ส่วนเพชรก้อน ลด 6.52% เพชรเจียระไน ลด 30.51% เครื่องประดับเงิน ลด 17.04% เครื่องประดับเทียม ลด 14.15% เศษหรือของที่ใช้ไม่ได้ทำด้วยโลหะมีค่า ลด 21.33% และทองคำ ลด 34.95

ขณะที่ตลาดส่งออกสำคัญ มีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง โดยฮ่องกง เพิ่ม 184.47% ญี่ปุ่น เพิ่ม 6.05% อิตาลี เพิ่ม 47.27% สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพิ่ม 22.50% สิงคโปร์ เพิ่ม 73.94% ส่วนสหรัฐฯ ลดลง 8.99% เยอรมนี ลด 17.52% สหราชอาณาจักร ลด 16.17% สวิตเซอร์แลนด์ ลดลง 2.78% อินเดีย ลด 64.86%คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

นายสุเมธกล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกช่วงครึ่งปีหลัง ยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัวจากการที่ภาวะเงินเฟ้อยังลดลงน้อยกว่าที่คาด โดยเฉพาะสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และเยอรมนี มีแนวโน้มชะลอตัวมากกว่าประเทศอื่น ๆ เนื่องจากปัญหาสภาพคล่องสถาบันการเงิน ขณะที่การฟื้นตัวของจีนและญี่ปุ่นยังเป็นไปในทิศทางค่อยเป็นค่อยไป ทำให้อาจมีผลต่อกำลังซื้อสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ

“ภาพรวมการบริโภคในตลาดสำคัญทั่วโลกที่มีแรงฉุดจากปัญหาทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อแม้จะชะลอตัวลง แต่ก็ยังไม่ลดลงดีนัก ผู้ประกอบการไทยควรเน้นให้ความสำคัญต่อการรักษาลูกค้าเดิมที่มีอยู่ สร้างสัมพันธภาพและการนำเสนอสินค้าใหม่ เพื่อรักษาฐานเดิมไว้ รวมทั้งการวางแผนกลยุทธ์การขายให้สอดคล้องกับเทรนด์ตลาด ฤดูกาล และพฤติกรรมผู้บริโภค ด้วยการอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ รวมทั้งการลงทุนในการฝึกอบรมทั้งการเพิ่มเติมทักษะของบุคลากร โดยเฉพาะความรู้ในด้านที่เกี่ยวกับนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร จะเป็นการติดอาวุธให้ภาคธุรกิจยืนหยัดและต่อยอดไปข้างหน้าได้”

By admin