นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า รัฐบาลเล็งเห็นว่าการเบิกจ่ายงบประมาณ ปี 67 จะล่าช้า จึงต้องมีมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงต้นปี ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 70,000 ล้านบาท กระตุ้นจีดีพีเพิ่มขึ้น 0.18%
เปิด 5 สายงานสุดปังในตลาดแรงงาน ถูกดึงตัวมากที่สุดในปี 2024 คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
กระทรวงพาณิชย์ มอบของขวัญปีใหม่ 67 ลดราคาสินค้าสูงสุด 82%
สำหรับ มาตรการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสนับสนุนการบริโภคในประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีให้ใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์
และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษี และการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งส่งผลดีต่อการจัดเก็บภาษีในระยะยาว
สำหรับมาตรการดังกล่าวจะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 สามารถนำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่จ่ายค่าซื้อสินค้าและบริการภายในประเทศ มาลดหย่อนภาษีตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินจำนวน 50,000 บาท
ครม.เคาะแล้ว “Easy E-Receipt” ซื้อสินค้าคืนภาษี 50,000 บาท เริ่ม 1 ม.ค.67
สินค้าหรือค่าบริการที่ไม่เข้ามาตรการ ไม่สามารถหักลดหย่อนไม่ได้
- ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
- ค่าซื้อยาสูบ
- ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
- ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
- ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต และค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาวซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567
- ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย โดยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
สำหรับ ผู้ประกอบการนิติบุคคล (ไม่จำกัดรายได้) สามารถจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบบริการ e-Tax Invoice & e-Receipt โดยศึกษารายละเอียดและลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ https://etax.rd.go.th
และสำหรับผู้ประกอบการนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี สามารถจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบบริการ e-Tax Invoice by Email โดยศึกษารายละเอียดและลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ www.rd.go.th/27659.html
“จุลพันธ์” รอกฤษฎีกาตอบกลับ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ยืนยันกรอบเดิม พ.ค. 67
นอกจากนี้ ยังให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต ยืนยันกรอบเดิมที่ พ.ค. ปีหน้า ซึ่งขณะนี้เตรียมจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นในช่วงต้นเดือน ม.ค. 2567 กฤษฎีกาจะส่งคำตอบกลับมาที่กระทรวงการคลังว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่
คลังจับตา “สินมั่นคงประกันภัย” จ่อหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างความมั่นใจในอุตสาหกรรมประกัน
ส่วนกรณีสินมั่นคงประกันภัยได้ให้โอกาสบริษัทในการฟื้นฟูกิจการแต่ว่าแผนไม่ผ่านมติผู้ถือหุ้นซึ่งขณะนี้มีการค้างจ่ายสินไหม 700,000 ราย มูลค่า 32,000 ล้านบาท แล้วยังมีกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่อีก 1.87 ล้านกรมธรรม์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และดำเนินการโอนพอร์ตกรมธรรม์ที่ยังมีผลบังคับอยู่ไปยังบริษัทประกันอื่นเพื่อลดผลกระทบของผู้เอาประกัน แต่หากบริษัทยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขฐานะทางการเงินได้ ทาง คปภ. ต้องยกระดับดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม กลไกสุดท้ายอาจเป็นภาระรัฐบาลที่ต้องเข้ามาดำเนินการโดยใช้งบประมาณแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2567 รัฐบาลได้มีการเติมเงินเข้ากองทุน ประกันวินาศภัยจำนวน 3,000 ล้านบาท
สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยอื่น ๆ มีกลไกตามกฎหมายในการถ่ายโอนไปยังบริษัทประกันอื่นๆได้ไม่น่าห่วง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือประกันภัยโควิดซึ่งมีมูลหนี้ 30,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังเตรียมหารือกับ คปภ. เพื่อทบทวนกฎหมายกำกับดูแลว่ามีช่องโหว่หรือไม่ และจะลงไปแก้ไขแก้ไขอย่างไร พร้อมเตรียมหารือนายกฯ เพื่อให้มีข้อสั่งการในการดำเนินการต่อไป รวมถึงมีแนวคิดจะหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความมั่นใจในอุตสาหกรรมประกันทั้งระบบ
โตโยต้า เตรียมหยุดขาย-เรียกคืนรถยนต์ 2 รุ่น ในไทยหลังพบความผิดปกติใหม่
พม.เสนอครม.เคาะ 4 แพ็กเกจของขวัญปีใหม่คนพิการ-ผู้สูงอายุ
กางปฏิทินจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้างลูกจ้างประจำ บำนาญ ปี 2566