นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI CEO Poll ครั้งที่ 36 ในเดือนธันวาคม 2566 ภายใต้หัวข้อ “ของขวัญปีใหม่แบบไหนถูกใจภาคอุตสาหกรรม” พบว่า สืบเนื่องจากภาครัฐได้ทยอยออกมาตรการต่างๆ เพื่อเป็น ของขวัญปีใหม่ 2567 ให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ เช่น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำปี 2567 การปรับลดอัตราค่าไฟ โครงการ Easy E-Receipt มาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลและแก๊สหุงต้ม (LPG) มาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 3.5 เป็นต้น
ส.อ.ท. คาดการณ์ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศปี'66 โตแตะ 9 แสนคัน
มุมมองนายจ้าง ผ่านโยบายค่าแรงขั้นต่ำ แก้ปัญหาค่าครองชีพ?
ซึ่งมาตรการดังกล่าวที่ได้ประกาศออกมาแล้วหรือที่อยู่ระหว่างการพิจารณานั้น มีทั้งที่ภาคเอกชนเห็นด้วย และบางมาตรการก็มีความห่วงกังวลถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น
จากผลการสำรวจพบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ มีความคาดหวังให้รัฐบาลออกมาตรการส่งเสริมเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2567 โดยมีข้อเสนอมาตรการที่ได้รับความสนใจสูงสุดจากผู้บริหาร ส.อ.ท.ในแต่ละด้าน ดังนี้
- มาตรการส่งเสริมเพื่อเพิ่มความต้องการสินค้าอุตสาหกรรม เช่น สินเชื่อพิเศษเพื่อการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย เงินอุดหนุนการติดตั้งโซล่าเซลล์เพื่อประหยัดค่าไฟและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ฯลฯ
- การปลดล็อกกฎหมายให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถติดตั้งโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าทุกขนาด โดยไม่ต้องขอใบอนุญาต รง.4 เพื่อลดภาระค่าไฟ
- มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงกระบวนการผลิตและจัดการสิ่งแวดล้อมตามแนวคิด ESG
- การเร่งตรวจสอบและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นมานานและฉุดรั้งทำให้ประเทศไทยไม่สามารถเติบโตได้อย่างที่ควรจะเป็น
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ให้คะแนนพึงพอใจกับผลงานของรัฐบาลปี 2566 สูงสุด ในเรื่องการกำกับดูแลราคาพลังงานและการออกมาตรการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบด้านพลังงานทั้งการปรับลดค่าไฟ อุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล และลดราคาน้ำมันเบนซิน ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการช่วยลดภาระต้นทุนการผลิตให้ผู้ประกอบการ รักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือนในช่วงที่เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงฟื้นตัว
จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 216 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก46 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI CEO Poll ครั้งที่ 36 จำนวน 5 คำถาม ดังนี้
1. ภาครัฐควรดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับภาคอุตสาหกรรม (Multiple choices)
- อันดับที่ 1 : 68.5% มาตรการส่งเสริมเพื่อเพิ่มความต้องการสินค้าอุตสาหกรรม เช่นสินเชื่อพิเศษเพื่อการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย เงินอุดหนุนการติดตั้งโซล่าเซลล์เพื่อประหยัดค่าไฟและส่งเสริมการใช้ RE ฯลฯ
- อันดับที่ 2 : 60.6% มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรองโดยการให้ส่วนลดค่าที่พักและส่วนลดซื้อสินค้าในจังหวัด
- อันดับที่ 3 : 53.7% มาตรการทางภาษีเพื่อส่งเสริมให้เอกชนซื้อสินค้าและบริการที่อยู่ในระบบ e-Tax
- อันดับที่ 4 :51.9% เพิ่มวงเงินในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในการซื้อสินค้าและบริการจาก SME และ Made in Thailand
2. ภาครัฐควรบริหารจัดการพลังงานอย่างไร เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับภาคอุตสาหกรรม (Multiple choices)
- อันดับที่ 1 : 72.7% ปลดล็อกกฎหมายให้สามารถติดตั้งโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าทุกขนาดโดยไม่ต้องขอใบอนุญาต รง.4 เพื่อลดภาระค่าไฟ
- อันดับที่ 2 : 65.3% การตั้ง กรอ.พลังงาน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาพลังงานทั้งระบบ
- อันดับที่ 3 : 62.0% ปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) งวดที่ 1/2567 ให้ไม่เกิน 3.99 ต่อหน่วย
- อันดับที่ 4 : 49.5% มาตรการช่วยเหลือลดค่าไฟให้กับ SME โดยมีส่วนลดเป็นขั้นบันไดตามปริมาณการใช้ไฟฟ้า
3. ภาครัฐควรช่วยเหลือด้านการเงินอย่างไร เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับภาคอุตสาหกรรม (Multiple choices)
- อันดับที่ 1 : 68.1% มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงกระบวนการผลิตและจัดการสิ่งแวดล้อม
- อันดับที่ 2 : 59.3% เสนอให้ ธปท. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เพื่อลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับลูกหนี้
- อันดับที่ 3 : 56.9% สถาบันการเงินรัฐออกมาตรการส่งเสริมและจูงใจลูกหนี้ SME ที่มีประวัติชำระหนี้ดี เช่น ลดดอกเบี้ย ขยายวงเงินสินเชื่อ
- อันดับที่ 4 : 46.8% ขยายฐานยกเว้นการเก็บภาษีนิติบุคคลจาก SME จากเดิมไม่เกิน 300,000 บาท เป็น ไม่เกิน 1,000,000 บาท
4. ภาครัฐควรดำเนินการส่งเสริมปัจจัยเอื้อในการประกอบธุรกิจอย่างไร เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับภาคอุตสาหกรรม (Multiple choices)
- อันดับที่ 1 :69.9% เร่งตรวจสอบและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในหน่วยงานภาครัฐ
- อันดับที่ 2 : 64.8% ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2567 ลง 15% ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้เท่ากับปี 2566 และทบทวนอัตราภาษีที่ดินฯ ทั้งหมดใหม่
- อันดับที่ 3 : 58.3% เปิดศูนย์บริการ One stop service โดยนำระบบดิจิทัลมาใช้ในการอนุมัติอนุญาตภาครัฐ
- อันดับที่ 4 : 44.4% ปรับลดอัตราภาษีนำเข้าในกลุ่มสินค้าวัตถุดิบที่ไม่กระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ
5. ภาคอุตสาหกรรมถูกใจการดำเนินงานของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจในปี 2566 เรื่องใด (Multiple choices)
- อันดับที่ 1 : 66.2% ช่วยเหลือดูแลราคาพลังงาน เช่น ปรับลดค่าไฟ อุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลและลดราคาน้ำมันเบนซิน
- อันดับที่ 2 : 49.5% การดำเนินการเชิงรุกในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศ
- อันดับที่ 3 :45.4% ผลักดันการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เช่น โครงการแลนด์บริดจ์, รถไฟความเร็วสูง
- อันดับที่ 4 : 42.1% มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น Free Visa, ส่งเสริม Soft Power
คำพูดจาก สล็อต777
ช็อก! “อีซอนคยุน” นักแสดง Parasite และ My Mister ถูกพบเสียชีวิตในรถยนต์
ทางด่วนฟรี 7 วันรวดช่วงปีใหม่ 2567 เริ่ม 28 ธ.ค.66
โอนเงินชาวรอบที่ 3 กว่า 1.3 แสนครัวเรือน เป็นเงินกว่า 1,100 ล้านบาท